การบำบัดน้ำเสียด้วยน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์จากเปลือกส้ม

การบำบัดน้ำเสียด้วยน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์จากเปลือกส้ม

บทคัดย่อ
ในปัจจุบันนี้ประเทศของเรากำลังประสบปัญหามลภาวะทางน้ำอย่างมาก กลุ่มของข้าพเจ้าได้จัดทำโครงงานเรื่อง การบำบัดน้ำเสียด้วยน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์จากเปลือกส้มโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ทำให้น้ำมีคุณภาพที่ดีขึ้น ลดปัญหาภาวะน้ำเน่าเสีย ลดกลิ่นจากน้ำเน่าเสียและสามารถอธิบายกระบวนการการบำบัดน้ำเสียได้ โดยตั้งสมมติฐานการศึกษาว่า ถ้าปริมาณน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์ มีผลต่อระยะเวลาในการปรับสภาพของน้ำเสีย ดังนั้น ถ้าปริมาณของน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์มาก ย่อมมีผลทำให้น้ำที่เน่าเสียกลับสู่สภาพที่ดีในระยะเวลาที่รวดเร็ว และได้ทำการทดลองคือ
ชุดที่ 1 เป็นน้ำเน่าเสียเพียงอย่างเดียวปริมาณ 1 ลิตร
ชุดที่ 2 เป็นน้ำเน่าเสียผสมน้ำจุลินทรีย์ในปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเสีย 1 ลิตร
ชุดที่ 3 เป็นน้ำเน่าเสียผสมน้ำจุลินทรีย์ในปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเสีย 1 ลิตร
ชุดที่ 4 เป็นน้ำเน่าเสียผสมน้ำจุลินทรีย์ในปริมาณ 10 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเสีย 1 ลิตร
โดยสังเกตผลและวัดค่า DO จนสามารถสรุปผลการทดลองได้คือ น้ำเน่าเสียที่เรานำมาบำบัดได้กลายสภาพเป็นน้ำที่เน่าเสียมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและไม่สามารถกลับสภาพของน้ำเน่าเสียให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นได้
เนื่องจากว่า ผลการทดลองไม่เป็นไปตามสมมติฐานของการศึกษาค้นคว้าที่เราได้ทำการศึกษาค้นคว้า และกลุ่มของข้าพเจ้าคิดว่า น่าจะเป็นผลมาจากการใช้น้ำหมักชีวภาพในปริมาณที่มากเกินไปและระยะเวลาที่น้อยเกินไป จึงทำให้การทดลองผิดพลาด และไม่เกิดผลดีเท่าที่ควร

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ในปัจจุบันนี้ประเทศของเรากำลังประสบปัญหามลภาวะทางน้ำเป็นอย่างมาก ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้คนในประเทศ เนื่องจากน้ำที่เน่าเสียไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้และน้ำที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคก็มีปริมาณน้อยลงไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ เราจึงคิดหาวิธีที่จะนำน้ำเน่าเสียและใช้ประโยชน์ไม่ได้มาปรับสภาพให้น้ำมีคุณภาพดีขึ้นและสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้โดยการทำน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์จากเปลือกส้มเพื่อใช้ในการปรับสภาพของน้ำและอีกประการหนึ่งการใช้น้ำปุ๋ยจุลินทรีย์จาเปลือกส้มนั้นเพื่อต้องการที่จะประหยัดต้นทุนในการใช้อุปกรณ์บำบัดน้ำเสียซึ่งมีราคาแพงและยังสามารถหาอุปกรณ์การผลิตได้ง่ายและยังทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
2.1.เพื่อต้องการหาวิธีบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการที่ประหยัดและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
2.2 เพื่อฝึกการทำงานแบบนักวิทยาศาสตร์
2.3.ทำให้น้ำเสียมีคุณภาพที่ดีขึ้นและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
2.4.ลดปัญหาภาวะน้ำเน่าเสีย
2.5.ลดกลิ่นจากน้ำเน่าเสีย
2.6.สามารถอธิบายกระบวนการการบำบัดน้ำเสียได้
2.7.นำน้ำปุ๋ยชีวภาพมาประยุกต์ใช้ในการบำบัดน้ำเสียได้

สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า
ถ้าปริมาณน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์ มีผลต่อระยะเวลาในการปรับสภาพของน้ำเสีย ดังนั้น ถ้าปริมาณของน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์มาก ย่อมมีผลทำให้น้ำที่เน่าเสียกลับสู่สภาพที่ดีในระยะเวลาที่รวดเร็ว

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
ตัวแปรต้น : ปริมาณของน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์
ตัวแปรตาม : การกลับสภาพของน้ำเสีย
ตัวแปรควบคุม: อุณหภูมิ ระยะเวลา สถานที่ ภาชนะ แสงสว่าง ผ้าขาวบาง ปริมาณน้ำเสีย

อุปกรณ์และวิธีทำการทดลอง

วัสดุอุปกรณ์และวิธีการทำน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์

1.วัสดุที่ใช้ทำน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์

เปลือกส้ม(Citrus. Sinensis) ที่ทิ้งแล้ว 3 กิโลกรัม

กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม

มีดและเขียง

ถังมีฝาปิด สีทึบ

2.ขั้นตอนการเตรียมทำปุ๋ยจุลินทรีย์

นำเปลือกส้มหรือเศษผลไม้ที่ยังไม่เน่าบูด มาสับให้ละเอียด


นำไปใส่ในภาชนะที่มีสีทึบและมีฝาปิดตามที่เตรียมไว้


ใส่กากน้ำตาล 1 ใน 3 ของน้ำหมัก (1 : 3)


คนให้เข้ากันและใช้ของหนักวางทับเศษผลไม้แล้วปิดฝา ทิ้งไว้ 5-7 วัน

จากนั้นจะได้น้ำสีน้ำตาลออกมา คือ น้ำสกัดชีวภาพ




กรอกใส่ขวดปิดฝาให้สนิทพร้อมที่จะนำไปใช้

วัสดุอุปกรณ์และวิธีการทำการทดลอง

1.วัสดุอุปกรณ์ในการทำการทดลอง
นำน้ำปุ๋ยจุลินทรีย์โดยแบ่งออกเป็น 4 ชุด คือ

น้ำปุ๋ยจุลินทรีย์

น้ำเน่าเสียปริมาณ 4 ลิตร

ภาชนะสำหรับใช้ในการทดลอง 4 ชุด
ผ้าขาวบาง 4 ผืน
ช้อนตวง

2.ขั้นตอนการทำการทดลอง
แบ่งการทดลองออกเป็น 4 ชุด ดังนี้

ชุดที่ 1 เป็นน้ำเน่าเสียเพียงอย่างเดียวปริมาณ 1 ลิตร



ชุดที่ 2 เป็นน้ำเน่าเสียผสมน้ำจุลินทรีย์ในปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเสีย 1 ลิตร




ชุดที่ 3 เป็นน้ำเน่าเสียผสมน้ำจุลินทรีย์ในปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเสีย 1 ลิตร



ชุดที่ 4 เป็นน้ำเน่าเสียผสมน้ำจุลินทรีย์ในปริมาณ 10 ช้อนโต๊ะต่อน้ำเสีย 1 ลิตร




ทิ้งไว้ 5-7วันโดยควบคุมตัวแปรแต่ละตัวให้เท่ากัน



สังเกตการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เครื่องมือวัดคุณภาพน้ำ(DO =Dissolved Oxygen) โดยวัดปริมาณของออกซิเจนในน้ำว่ามีเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ โดยควรจะมีปริมาณออกซิเจนในน้ำมากกว่า 3 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตรจึงจะเป็นน้ำดี
สังเกตอาทิตย์ละ 1 ครั้งและบันทึกผลการเปลี่ยนแปลง

ผลการทดลองของโครงงาน
ตารางบันทึกผลการทดลองของน้ำเสียอย่างเดียวปริมาตร 1 ลิตร

วัน/เดือน/ปี สี กลิ่น การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
21 ม.ค. 2552 มีสีเขียวขุ่น ไม่มีกลิ่น ยังไม่ตกตะกอนอย่างเต็มที่
22 ม.ค. 2552 มีสีเขียวอ่อนกว่าวันที่ผ่านมาสีของน้ำดูใสขึ้น มีกลิ่นแรงกว่าวันที่ผ่านมา ตกตะกอนอย่างเต็ม
ที่และตะกอนมีสีเขียวเข้ม
23 ม.ค. 2552 น้ำมีสีขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นเหมือนวันที่ผ่านมา ตกตะกอนเหมือนวันที่ผ่านมา

24 ม.ค. 2552 น้ำมีสีขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นมากกว่าวันที่ผ่านมา ตกตะกอนเหมือนวันที่ผ่านมา

25 ม.ค. 2552 น้ำมีสีขาวขุ่นมีสีจางลงกว่าวันที่ผ่านมา มีกลิ่นเหม็นเหมือนวันที่ผ่านมา ตกตะกอนเหมือนวันที่ผ่านมา

วัดค่า DO = 1.03 ที่อุณหภูมิ 28.4 องศาเซลเซียส

ตารางบันทึกผลการทดลองของน้ำเสียปริมาตร 1 ลิตร ผสมกับน้ำหมักชีวภาพปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ

วัน/เดือน/ปี สี กลิ่น การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
21 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงอ่อนขุ่นพอประมาณ หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพ ตกตะกอน ตะกอนมีสี

น้ำตาล

22 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลส้มน้ำใสกว่าวันที่ผ่านมา หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพแต่กลิ่นจางลง ตะกอนมี

สีน้ำตาลอ่อนขุ่นมีฟองบนผิวน้ำ

23 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลส้มอ่อน หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพแต่กลิ่นจางลง ตะกอนมีสีน้ำตาลเหลือง

อ่อน ขุ่น มีฟองบนผิวน้ำ
24 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลส้มอ่อนมีสีใสขึ้น หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพ ตะกอนมีสีน้ำตาลเหลืองอ่อน

2ชั้นขุ่น มีฟองบนผิวน้ำเล็กน้อย
25 ม.ค. 2552 น้ำมีสีส้มเหลืองใสขึ้น มีกลิ่นเหม็นกว่าวันที่ผ่านมา ตกตะกอนมีฟองติดอยู่บนผิวน้ำ

ฟองมีลักษณะคล้ายไขมัน

วัดค่า DO = 0.20 ที่อุณหภูมิ 28.3 องศาเซลเซียส

ตารางบันทึกผลการทดลองของน้ำเสียปริมาตร 1 ลิตร ผสมกับน้ำหมักชีวภาพปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ

วัน/เดือน/ปี สี กลิ่น การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
21 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงเข้ม หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพ ตกตะกอน ตะกอนมีสีน้ำตาลและมีปริมาณ

มาก

22 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงขุ่น หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพมาก ตะกอนมีสีน้ำตาลอ่อนขุ่นมีฟองสีขาวบน

ผิวน้ำ
23 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงอ่อน หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพ ตะกอนมีสีน้ำตาลเหลือง ขุ่นมีฟองบนผิว

น้ำมากขึ้น
24 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลส้ม มีสีขุ่นเล็กน้อย หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพ ตะกอนมีสีน้ำตาลเหลืองอ่อน

2 ชั้นขุ่น มีฟองสีขาวบนผิวน้ำ
25 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลส้มเกือบแดง มีกลิ่นเหม็นขึ้น ตกตะกอนมีฟองติดอยู่บนผิวน้ำฟองมีลักษณะ

คล้ายไขมัน และมากขึ้นกว่าเดิม

วัดค่า DO = 0.09 ที่อุณหภูมิ 28.4 องศาเซลเซียส

ตารางบันทึกผลการทดลองของน้ำเสียปริมาตร 1 ลิตร ผสมกับน้ำหมักชีวภาพปริมาณ 10 ช้อนโต๊ะ

วัน/เดือน/ปี สี กลิ่น การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
21 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงเข้มเกือบมีสีดำ หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพ ตกตะกอน ตะกอนมีสีน้ำตาล

และมีปริมาณมาก
22 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงเข้มเกือบสีดำ หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพแต่มีกลิ่นจางลง ตะกอนมีสี

น้ำตาลอ่อน ขุ่น มีฟองสีขาวบนผิวน้ำ
23 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลดำเหมือนวันที่ผ่านมา หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพแต่มีกลิ่นจางลง ตะกอนมีสี

น้ำตาลเหลืองขุ่น มีฟองสีขาวบนผิวน้ำเพิ่มขึ้น
24 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงขุ่น หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพแต่มีกลิ่นจางลง ตะกอนมีสีน้ำตาลเหลือง

อ่อน 2ชั้นขุ่น มีฟองสีขาวบนผิวน้ำเพิ่มขึ้น
25 ม.ค. 2552 น้ำมีสีน้ำตาลแดงใสกว่าวันที่ผ่านมา หอมกลิ่นของน้ำหมักชีวภาพแต่มีกลิ่นจางลง ตก

ตะกอนมีฟองติดอยู่บนผิวน้ำฟองมีลักษณะคล้ายไขมัน และเพิ่มมากขึ้น

วัดค่า DO = 0.07 ที่อุณหภูมิ 28.6 องศาเซลเซียส

สรุปผลการทดลอง

ชุดที่ 1 : ผลการทดลองของน้ำเสียอย่างเดียวปริมาตร 1 ลิตร
ผลการทดลองมีการเปลี่ยนแปลงคือ น้ำมีสีขาวขุ่น มีตะกอนสีเขียวเข้ม มีกลิ่นเหม็นเล็กน้อย วัดค่า DO ได้ 1.03 ที่อุณหภูมิ 28.4 องศาเซลเซียส

ชุดที่ 2 : ผลการทดลองของน้ำเสียปริมาตร 1 ลิตรผสมกับน้ำหมักชีวภาพปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
ผลการทดลอง คือ น้ำมีสีส้มเหลืองเหมือนน้ำส้มคั้น มีตะกอนสีเหลืองขุ่น มีไขมันสีเหลืองจับกันเป็นก้อนลอยอยู่บนผิวน้ำ มีกลิ่นเหม็นมากกว่าเดิม วัดค่า DO ได้ 0.20 ที่อุณหภูมิ 28.3 องศาเซลเซียส

ชุดที่ 3 : ผลการทดลองของน้ำเสียปริมาตร 1 ลิตรผสมกับน้ำหมักชีวภาพปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ
ผลการทดลอง คือ น้ำมีสีน้ำตาลส้มเกือบแดง มีตะกอนสีเหลืองขุ่น มีไขมันสีเหลืองขาวจับกันเป็นก้อนลอยอยู่บนผิวน้ำในปริมาณที่มากกว่าการทดลองชุดที่ 2 มีกลิ่นเหม็นมากขึ้น วัดค่า DO ได้ 0.09 ที่อุณหภูมิ 28.4 องศาเซลเซียส

ชุดที่ 4 : ผลการทดลองของน้ำเสียปริมาตร 1 ลิตรผสมกับน้ำหมักชีวภาพปริมาณ 5 ช้อนโต๊ะ
ผลการทดลอง คือ มีสีน้ำตาลแดงขุ่น มีตะกอนสีเหลืองขุ่น มีไขมันสีเหลืองขาวจับกันเป็นก้อนลอยอยู่บนผิวน้ำในปริมาณที่มากกว่าการทดลองชุดที่ 3 มีกลิ่นหอมของน้ำหมักชีวภาพ วัดค่า DO ได้ 0.07 ที่อุณหภูมิ 28.6 องศาเซลเซียส

เนื่องจากว่า ผลการทดลองไม่เป็นไปตามสมมติฐานของการศึกษาค้นคว้าที่เราได้ทำการศึกษาค้นคว้า และกลุ่มของข้าพเจ้าคิดว่า น่าจะเป็นผลมาจากการใช้น้ำหมักชีวภาพในปริมาณที่มากเกินไปและระยะเวลาที่น้อยเกินไป จึงทำให้การทดลองผิดพลาด และไม่เกิดผลดีเท่าที่ควร
โดยได้ผลการทดลอง คือ น้ำเน่าเสียที่เรานำมาบำบัดได้กลายสภาพเป็นน้ำที่เน่าเสียมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและไม่สามารถกลับสภาพของน้ำเน่าเสียให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นได้

ประโยชน์จากการศึกษาค้นคว้า
1. ได้ความรู้เกี่ยวกับการทำน้ำหมักชีวภาพ
2. รู้จักการแก้ปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมทางด้านต่างๆ
3. สามารถนำความรู้และวิชาที่ศึกษาเล่าเรียน มาใช้ประยุกต์ในการใช้ทำโครงงานได้
4. สามารถวิเคราะห์ปัญหาและจัดกระบวนการการปฏิบัติได้อย่างดีที่สุด
5. รู้แหล่งที่มาของปัญหาและสามารถแก้ไขปัญหาได้ถูกต้องตามวิธีและกระบวนการได้อย่างดีที่สุด
6. สามารถทราบถึงวิธีการแก้ปัญหาและป้องกันมลภาวะทางด้านต่างๆได้ถูกต้องและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด